นอกจากปลาทู ขนมแมว ก็นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เจ้าแมวเหมียวต่างชื่นชอบเป็นพิเศษ เพราะมีกลิ่นหอม กินง่าย แถมยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพของแมวอีกด้วย ครีมแมวเลีย จึงสามารถใช้ร่วมกับอาหารหลักได้ในกรณีที่แมวเบื่ออาหารเพื่อกระตุ้นความอยากให้เขา โดยเฉพาะสินค้าในเครือ Food Innova เพราะทำมาจากเนื้อปลาแท้ 100% ไม่มีส่วนผสมจากเนื้อเทียม อย่างไรก็ตาม ไม่ควรให้กินมากเกินไปเดี๋ยวจะทำให้เกิดปัญหาการเลือกกินหรือปฏิเสธการกินอาหารหลักได้ค่ะ
เลือก ขนมสำหรับน้องแมว ยังไงให้เหมาะกับเจ้านาย
โดยทั่วไปแล้ว ขนมแมว จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ขนมแมวเลียชนิดครีม ซึ่งเป็นชนิดที่ค่อนข้างกินง่าย เหมาะสำหรับลูกแมวสูงวัย หรือแมวที่กินน้ำน้อย ส่วนอีกชนิดจะเป็น ขนมแมวเลีย แบบแห้ง เหมาะสำหรับแมวที่มีฟันแข็งแรง พร้อมช่วยกระตุ้นให้อยากอาหารมากยิ่งขึ้น
-
ขนมแมวเลีย ชนิดครีม กินง่าย ไม่ต้องเคี้ยว
สำหรับ ขนมแมว ชนิดครีม ถือเป็นชนิดที่ได้รับความนิยมสูง เพราะมีกลิ่นหอม กินง่าย แถมยังมีหลากหลายรสชาติให้เลือกลอง ยกตัวอย่างเช่น ขนมแมวเลีย จากเครือ Food Innova ที่นอกจากอาหารแมว Nekko แล้ว เขายังมีขนมแมวเลียอย่าง ToroToro Plus อีกด้วย
-
ขนมแมวเลีย ชนิดแห้ง กระตุ้นความอยากอาหาร
ส่วนขนมแมวเลียชนิดแห้งจะมีความต่างกันออกไป มีทั้งรูปแบบเส้นและแบบแท่ง รวมไปจนถึงแบบแปรรูปจากเนื้อสัตว์ มีคุณค่าทางสารอาหารครบ ที่สำคัญยังสามารถนำไปผสมกับอาหารแบบเม็ดได้ด้วย เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้อาหารน่ากินมากยิ่งขึ้น
แมวเด็กกิน ขนมแมวเลีย ได้ไหม เริ่มได้ตั้งแต่กี่เดือน
อีกหนึ่งคำถามยอดฮิตจากเหล่าทาส แมวเด็กกิน ขนมแมว ได้ไหม คำตอบคือสามารถกินได้แต่ต้องเลือก ขนมแมวเลีย สูตรที่เหมาะกับวัยด้วย และต้องผ่านการผลิตที่ได้มาตรฐาน วัตถุดิบได้คุณภาพ เช่น ขนมแมวจาก Food Innova อย่าง ToroToro Plus เขาก็มีการคิดค้นสูตรเฉพาะเพื่อให้ลูกแมวกินได้ง่ายด้วย มีทั้งหมด 6 รสชาติให้เลือก ได้แก่
- รสทูน่าเนื้อขาวและล็อบสเตอร์ + Vitamin E ช่วยบำรุงเส้นขนและผิวหนังให้สุขภาพดี
- รสทูน่าเนื้อขาวและปูยักษ์ + L-Lisine ช่วยบำรุงสายตาและเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานให้แข็งแรง
- รสทูน่าเนื้อขาวและปลาโออบแห้ง + DHA ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาทให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- รสทูน่าเนื้อขาวและหอยเชลล์ + Prebiotic ทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น
- รสทูน่าเนื้อขาวและปลาค็อด + Glucosamine ช่วยชะลอการเสื่อมของข้อต่อ
- รสทูน่าเนื้อขาวและแซลมอนอลาสก้า + Vitamin A บำรุงสายตาและการมองเห็น
ซึ่ง ขนมแมว แต่ละสูตรได้ผ่านการคัดสรรเนื้อสัตว์ที่ได้คุณภาพมาแล้วอย่างดี เพื่อส่งเสริมให้ลูกแมวเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ ทาสคนไหนยังไม่มีติดบ้านไว้ให้เจ้านายสามารถดูสินค้าจาก Food Innova ทั้งหมดได้ที่ shopee mall หรือตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปได้เลย
ควรให้ ขนมแมวเลีย ปริมาณเท่าไรถึงจะพอดี
แม้ว่า ขนมแมว จะมีคุณประโยชน์มากมาย แต่ก็ไม่ควรให้เกินสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะใน ขนมสำหรับน้องแมว ส่วนใหญ่จะอุดมไปด้วยสารอาหารจำพวก คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน อาจส่งผลต่อเรื่องน้ำหนักได้ ที่สำคัญขนมแมวจัดเป็นอาหารว่างอย่างหนึ่งเท่านั้น อาจจะไม่ได้สารอาหารครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการเหมือนมื้อหลัก จึงจำเป็นต้องระวังการให้ที่เกินความพอดีต่อร่างกายด้วยค่ะ
ขนมสำหรับน้องแมว แบบไหนที่ควรเลี่ยง
- ไม่ควรกิน ขนมแมวเลีย ที่ไม่มียี่ห้อ เพราะเราไม่รู้ว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง พยายามเลือกยี่ห้อที่มีชื่อเสียง สะอาด ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของน้องแมว
- ควรเลี่ยงขนมแมวที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น แมวบางตัวแพ้เนื้อไก่ หากไม่อ่านส่วนผสมให้ดีจะทำให้ขนร่วงง่าย
- เลี่ยง ขนมแมว ที่มีผลเสียต่อสุขภาพของแมว เช่น โซเดียม เกลือ ฟอสฟอรัส และวัตถุกันเสีย
- ไม่ควรเลือกสูตรที่โตเกินกว่าวัยของน้องแมว เพราะจะทำให้เขาได้รับสารอาหารเกินขนาดตัว และเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนได้
- ก่อนจะให้น้องแมวกินขนมแต่ละครั้ง ควรตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อยไหม ที่สำคัญต้องยังไม่หมดอายุ
วิธีฝึกนิสัยแมวด้วย ครีมแมวเลีย
ทาสคนไหนอยากให้แมวรักแมวหลง อาจจะต้องมีของแลกเปลี่ยนกับเจ้านายกันสักหน่อย ซึ่งถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
- ควรให้เฉพาะโอกาสพิเศษ หรือวันที่เขาทำตัวน่ารัก ๆ เพื่อเป็นรางวัล
- ไม่ควรให้กิน ขนมแมว ต่อเนื่องทุกวัน อย่างน้อยควร 2-3 ครั้ง/สัปดาห์
- ให้กินเมื่อเขาทำตามคำสั่งเราได้จะทำให้แมวเชื่อฟังเรามากขึ้น
- ไม่แนะนำให้กินแทนอาหารหลัก แม้ว่าเขาจะอยากกินมากแค่ไหนก็ตาม ทาสต้องใจแข็งเข้าไว้ เพื่อไม่ให้เขาติดนิสัย
สรุป ขนมแมว ขนมที่ทาสต้องมีติดบ้าน
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ขนมแมว แม้จะมีประโยชน์มากแค่ไหนก็ไม่แนะนำให้กินในปริมาณมากเกินไป เพราะ ขนมแมวเลีย ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้เป็นของว่างทานเล่นเท่านั้น และควรกินเพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น ถ้ามากกว่านี้จะทำให้เขาไม่ยอมกินอาหารหลัก แถมยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนอีกด้วย ทาสต้องให้เขากินอย่างระมัดระวังด้วยนะคะ