อาหารสุนัข เฮอร์คิวลิส
อาหารสุนัข โฮ่ง โฮ่ง
อาหารแมว เหมียว เหมียว
คำถามที่พบบ่อย
ปริมาณอาหารที่เหมาะสมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม โดยจะขึ้น อยู่กับขนาด น้ำหนัก อายุและกิจกรรมของน้องแมว โดยสามารถดูรายละเอียด ปริมาณอาหารที่เหมาะสมเพิ่มเติมตามที่ระบุหลังซองอาหารได้เลยค่ะ
อาหารแมว Nekko แบบเปียกทุกตัวไม่มีการเติมเกลือค่ะ สำหรับโซเดียมในอาหารเป็นโซเดียมตามธรรมชาติจากเนื้อปลาทูน่าที่เป็นปลาทะเล ซึ่งอาหารแมว Nekko แบบเปียกใช้เนื้อปลาทูน่าเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต
แมวเด็กสามารถทานอาหารแมวสูงอายุ Nekko Senior 7+ ได้ค่ะ เนื่องจาก สำหรับอาหารสูตรแมวสูงอายุ เนื้อปลาจะมีชิ้นเล็ก เคี้ยวง่าย และยังเสริมด้วย ทอรีน กลูโคซามีนที่ช่วยในการเสริมสร้างกระดูกของน้องด้วย
เพราะเราใช้กรรมวิธีทำให้อาหารปลอดเชื้อโดยใช้ความร้อนสูงแบบสเตอริไลเซชั่น (Sterilization) จึงสามารถทำลายจุลินทรีย์ที่ทำให้อาหารเสีย และจุลินทรีย์ก่อโรคได้ทั้งหมดและใช้บรรจุภัณฑ์แบบรีทอร์ท เพาซ์ (Retort Pouch) ที่ปกป้องผลิตภัณฑ์ได้อย่างมิดชิดปิดผลึกสนิท มีความแข็งแรง สะอาด ปลอดภัยสามารถทนต่อความร้อนและความดันสูงได้จึงทำให้สามารถเก็บไว้ได้นาน 2ปี แม้ไม่ใส่วัตถุกันเสียค่ะ
สามารถกินได้ค่ะ แต่ไม่แนะนำ ควรให้น้องแมวกินอาหารให้ตรงตามช่วงอายุของตัวเอง เนื่องจากแมวแต่ละช่วงวัยมีความต้องการทางโภชนาการที่แตกต่างกัน โดยแมวเด็กจะเป็นช่วงวัยที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโต และจะมีพัฒนาการจนสมบูรณ์เต็มที่เมื่ออายุ 1 ปี อาหารแมวเด็กจึงมีปริมาณโปรตีนที่สูงกว่าอาหารแมวโต และมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับแมวเด็ก เช่น แคลเซียม, ดีเอชเอ, โอเมก้า 3 และ 6 เป็นต้น ดังนั้นหากแมวเด็กกินอาหารแมวโตก็อาจจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการต่างๆ ของแมวเด็กได้
สามารถกินได้ค่ะ แต่ไม่แนะนำ ควรให้แมวกินอาหารให้ตรงตามช่วงอายุของตัวเอง เนื่องจากอาหารแมวเด็กมีปริมาณโปรตีนที่สูงกว่าอาหารแมวโต หากแมวโตกินอาหารแมวเด็ก จึงทำให้ร่างกายได้รับปริมาณโปรตีน พลังงาน, สารอาหารต่างๆ เกินความจำเป็นอาจจะส่งผลให้มีไขมันสะสมในร่างกาย น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และเกิดโรคอ้วน รวมถึงร่างกายทำงานหนักมากยิ่งขึ้น เพื่อขับสารอาหารส่วนเกินออกไป
ไม่แนะนำเนื่องจากแมวและสุนัขต้องการโภชนาการที่แตกต่างกัน เช่น แมวเป็นสัตว์กินเนื้อจึงต้องการปริมาณโปรตีนที่สูงกว่าสุนัข หากสุนัขกินอาหารแมวต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอาจส่งผลต่อสุขภาพได้ , แมวต้องการทอรีนมากกว่าสุนัข หากปริมาณทอรีนได้ไม่เพียงพออาจส่งผลทำให้ตาบอด ดังนั้นหากแมวกินอาหารสุนัขต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอาจส่งผลให้ร่างกายขาดทอรีนได้
ไม่แนะนำค่ะ ควรปรึกษาสัตวแพทย์ เนื่องจากปัจจุบันอาหารแมว Nekko ยังไม่มีสูตรสำหรับประกอบการรักษาโรค แต่อาหารแมว Nekko มีการควบคุมปริมาณโซเดียมที่เหมาะสม ดังนั้น น้องแมวที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงปกติ สามารถทานอาหารแมว NekKo ได้อย่างปลอดภัย ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของน้องแมวแน่นอนค่ะ
สำหรับอาหารชนิดเปียก ควรเก็บไว้ในตู้เย็นไม่เกิน 2 วัน สำหรับอาหารชนิดแห้งควรเก็บในถุงเดิม ปิดให้สนิท หรือเก็บใช้ภาชนะที่แห้งสะอาด และปิดมิดชิด ควรใช้ให้หมดภายใน 3 เดือน
น้องสุนัขสามารถทานอาหารเปียกได้ทุกวัน แต่ควรให้ทานเป็นเวลาที่สม่ำเสมอ โดยปริมาณการให้จะขึ้นอยู่กับขนาด น้ำหนักและอายุของน้อง และควรให้ทานผสมกับอาหารเม็ดบ้างเป็นบางครั้ง เพื่อไม่ให้น้องเบื่ออาหารและเพื่อเพิ่มสารอาหารอื่นเพิ่มเติมให้กับน้องด้วย
สามารถพิจารณาได้จาก 3 ปัจจัย หลักๆ คือ
1. ช่วงวัยของสุนัข
2. กิจวัตรประจำวัน (การออกกำลังกายหรือการวิ่งเล่น)
3. ปัญหาด้านสุขภาพโดยรวมและน้ำหนักตัว
การเปลี่ยนอาหารของลูกสุนัขที่ย่างเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยไม่ควรเปลี่ยนอย่างกะทันหันนั้น เพราะอาจส่งผลกระทบต่อลำไส้ที่บอบบางของลูกสุนัขได้
แนะนำปริมาณอาหารและวิธีการเปลี่ยนที่เหมาะสม ดังต่อไปนี้
วันที่ 1 — อาหารสูตรลูกสุนัขต่ออาหารสูตรสุนัขโต 75% : 25%
วันที่ 2 — อาหารสูตรลูกสุนัขต่ออาหารสูตรสุนัขโต 50% : 50%
วันที่ 3 — อาหารสูตรลูกสุนัขต่ออาหารสูตรสุนัขโต 25% : 75%
วันที่ 4 — เปลี่ยนมาให้อาหารสูตรสุนัขโต 100%
ต้องเริ่มต้นที่การเลือกอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนในสัดส่วนที่สมดุลต่อช่วงวัย และขนาดแต่ละสายพันธุ์ของสุนัข สิ่งแรกคือต้องรู้พฤติกรรมของสุนัขเพื่อเลือกอาหารที่เหมาะสม และคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่อาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพ
เช่น ดวงตา ผิวหนัง เส้นขน การเดิน-วิ่ง สุขภาพช่องปาก การขับถ่าย หรือการอาเจียน เป็นต้น ได้รับวัคซีนและยาถ่ายพยาธิตามที่สัตวแพทย์กำหนด และให้สุนัขได้ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย จะสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้แก่สุนัขมีสุขภาพดีและสดใสทุกวัน
1) ปัญหาดวงตา สังเกตน้ำตาหรือขี้ตาไหลอยู่ตลอดเวลา สาเหตุ เช่น โรคตาโปน หนังตาพับ หรือขอบตาอักเสบ
2) ปัญหาผิวหนัง สังเกตได้จากอาการคัน ขนร่วง หรือสุนัขมีกลิ่นตัวเหม็นผิดปกติ ควรเปลี่ยนอาหาร การดูแลความสะอาดของที่พักอาศัย และการอาบน้ำ
3) ปัญหาโรคในช่องหู สังเกตอาการคันที่สุนัขเก่หูบ่อยกว่าปกติ สาเหตุส่วนใหญ่มักพพบไรในหูของสุนัข ควรทำความสะอาดหูของสุนัขเป็นประจำ สามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอยาหยอดหูเพิ่มเติม
4) ปัญหาหินปูน สังเกตุได้จากคราบที่สะสมตามซอกฟันของสุนัข ส่วนใหญ่พบปัญหาจากการให้อาหารเปียกเป็นหลักและไม่มีขนมหรือของเล่นขัดฟันไว้ให้น้องสุนัข
5) ปัญหาน้ำหนักส่วนเกิน สังเกตจากสุนัขอ้วนขึ้น ประสิทธิภาพการเดิน-วิ่งช้าลง การเดินผิดไปจากปกติ สาเหตุหลักจากการเลือกอาหารที่ไม่เหมาะสมกับสุนัข
วิธีแก้ คือ การควบคุมปริมาณอาหาร และจัดการโภชนาการอาหารที่เหมาะสม ควบคู่กัลการออกกำลัง
*** หากพบปัญหาดังกล่าวแล้วปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลและยังไม่ดีขึ้น ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์โดยด่วน ***
สามารถกินได้ แต่ไม่แนะนำให้กินต่อเนื่อง เพราะสุนัขและแมวมีความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน ปริมาณสารอาหารในอาหารสุนัขและแมวจึงมีความต่างกันค่อนข้างสูง
เช่น แมวต้องการกรดอะมิโนทอรีนสูงกว่าสุนัข และแมวไม่สามารถสร้างเองได้ จึงจำเป็นต้องได้รับจากอาหาร
ทำให้อาหารแมวส่วนใหญ่เสริมทอรีน หากสุนัขกินอาหารแมวนานๆ อาจทำให้ได้รับทอรีนเกินและส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ เป็นต้น